โบท็อกซ์ทำงานอย่างไร?
เมื่อฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ โบท็อกซ์จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท (Acetylcholine) ที่สั่งให้กล้ามเนื้อนั้นหดตัว ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ หรือหดตัวได้น้อยลง ก็จะเกิดการคลายตัว ทำให้กล้ามเนื้อที่มีขนาดใหญ่หดตัวเล็กลง รวมถึงช่วยให้ผิวดูตึง เรียบเนียนขึ้น
เลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ โคราช ยังไงให้ปลอดภัย
- ✅ คลินิกต้องมีใบอนุญาต โดยคลินิกนั้นต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล (เลข 11 หลัก) ติดไว้ในที่ที่เห็นได้ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
- ✅ แพทย์มีประสบการณ์ โดยแพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่สามารถตรวจสอบผ่านฐานข้อมูลของแพทยสภาได้ รวมถึงแพทย์ต้องมีความรู้ มีการเทรน หรืออบรมเพิ่มศักยภาพในการรักษาอยู่ตลอด
- ✅ ใช้โบท็อกซ์แท้ โดยก่อนทำการรักษาต้องสามารถตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบกล่องและขวดได้ (มีเลข Lot, วันหมดอายุ, เอกสารกำกับภาษาไทย) และควรผสมยาให้ดูต่อหน้า
- ✅ คลินิกมีความสะอาด ซึ่งสภาพแวดล้อมของคลินิกต้องมีความสะอาด มีห้องรักษาเป็นสัดส่วน
- ✅ ใช้อุปกรณ์สะอาด โดยต้องมีการฆ่าเชื้อ รวมถึงไม่นำอุปกรณ์มาใช้ซ้ำ เพื่อลดความเสี่ยง และเป็นการรักษาความปลอดภัยขณะทำการรักษา
- ✅ มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ โดยหากดูเป็นภาพรีวิวไม่ควรเป็นภาพที่มีการตกแต่งจนเกินไป รวมถึงควรหาดูรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลางอย่างเว็บไซต์ของคลินิก หรือ Google Maps
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ควรเตรียมตัวอย่างไร
- งดดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด เพื่อป้องกันการเกิดอาการบวมหรือช้ำ
- งดรับประทานยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น ยาแอสไพริน, NSAIDs (Ibuprofen, Naproxen), วิตามินอี, น้ำมันปลา, แปะก๊วย เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
- แจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ให้แพทย์ทราบทุกครั้ง
- งดทำหัตถการอื่น ซึ่งหากมีนัดทำเลเซอร์ หรือนวดหน้า ควรทำมาก่อน หรือเว้นระยะหลังฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 1-2 สัปดาห์
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์
- ห้ามนอนราบ 3-4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของตัวยาไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ
- อย่าจับ นวด หรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีด ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ยากระจายตัวผิดตำแหน่ง
- ขยับกล้ามเนื้อบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังฉีด 1-2 ชั่วโมงแรก (เช่น ยิ้ม, ยักคิ้ว, ขมวดคิ้ว) เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น (เฉพาะกรณีฉีดริ้วรอย)
- งดความร้อน 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะการซาวน่า, สตรีม, เลเซอร์, หรือการตากแดดจัด เพราะความร้อนอาจสลายโบท็อกซ์ได้รวดเร็วขึ้น
- งดแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง หรือตามที่แพทย์แนะนำ
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์?
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของโบทูลินั่ม ท็อกซิน
- ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผู้ที่กำลังมีการติดเชื้อหรืออักเสบที่ผิวหนังบริเวณที่จะฉีด
ราคาโบท็อกซ์ ที่ Wandee Clinic
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์
การจะส่งผลให้เกิดอาการแก้มห้อยหรือหย่อนคล้อยหลังฉีดโบท็อกซ์ มีโอกาสน้อยมาก หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะเป็นการฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ไม่ได้ดึงผิวหนังโดยตรง (อาจเกิดได้บ้างในคนที่มีอายุและผิวขาดความยืดหยุ่นมากๆ)
เนื่องจากการฉีดโบท็อกซ์ เป็นการลดการทำงานของกล้ามเนื้อ แต่เป็นหัตถการที่ไม่สามารถคงผลลัพธ์ได้ตลอด ซึ่งเมื่อโบท็อกซ์หมดฤทธิ์ ใบหน้าก็จะค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพก่อนฉีด จึงไม่ได้ทำให้เหี่ยวหรือแย่ลงกว่าเดิมนั่นเอง
ดี ถ้าต้องใช้ปริมาณยูนิตเยอะๆ (เช่น ฉีดกรามพร้อมริ้วรอย หรือฉีดบอดี้) เพราะจะมั่นใจได้ว่ายาเปิดใหม่ ของแท้ และได้ราคาที่คุ้มค่า แต่ถ้าฉีดเพียงจุดเล็กๆ (เช่น หว่างคิ้ว) การเหมาขวดอาจไม่จำเป็นและอาจทำให้สิ้นเปลืองได้
เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์บริเวณแนวกรอบหน้าและลำคอ เพื่อลดแรงดึงของกล้ามเนื้อที่ดึงหน้าลง ทำให้กรอบหน้าดูคมชัดและยกกระชับขึ้น
ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการฉีด อย่างบริเวณที่มีริ้วรอย ควรฉีดประมาณ 3-6 เดือน หรือหากต้องการลดกรามสามารถฉีดซ้ำได้ประมาณ 4-6 เดือน (ไม่ควรฉีดซ้ำจุดเดิมเร็วกว่า 3 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงการดื้อยา และควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาทุกครั้ง)